สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ใช่นักกีฬาอาชีพ เชื่อว่าไม่มีใคร เล่นกอล์ฟ ทุกวัน ดังนั้นควรมองกอล์ฟเป็นเพียงกิจกรรมที่ใช้พักผ่อน ไม่ใช่การออกกำลังกายที่เหมาะสม คนที่เล่นกอล์ฟอย่างเดียวจะต้องออกกำลังกายอย่างอื่นเสริมถ้าต้องการร่างกายที่แข็งแรง อาจจะเป็นการวิ่งจ๊อกกิ้งอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที หรือ เต้นแอโรบิค ทำกายบริหาร อย่างเป็นประจำ
ความยืดหยุ่น
กอล์ฟเป็นกีฬาใช้แรงน้อย อาศัยทักษะการวางแผน ความอดทน และความยืดหยุ่นเป็นหลัก ก่อนไดร์ฟไม้กอล์ฟครั้งแรก ควรวอร์มให้ร่างกายอบอุ่นเล็กน้อยเพื่อเลี่ยงอาการเคล็ดขัดยอก ถ้าเป็นคนที่มีอายุมากแล้ว ในระดับเริ่มต้นควรจะมีโค้ชหรือผู้ฝึกสอนการเคลื่อนไหวอย่างถูกวิธีเพื่อลดโอกาศเกิดอุบัติเหตุ
การทรงตัว
การทรงตัวเป็นสิ่งสำคัญมากของนักกีฬากอล์ฟ จะต้องฝึกกระจายน้ำหนักให้จุดศูนย์ถ่วงมีความสมดุลในทุกทิศทาง นับตั้งแต่การยืนเล็งจนสิ้นสุดการไดร์ฟไม้ตีลูกกอล์ฟ ร่างกายต้องยืนได้มั่นคง ถ้ากระจายน้ำหนักไม่ดีจะเสียหลักหกล้มได้ แม้ว่าพื้นในสนามกอล์ฟส่วนใหญ่จะเป็นพื้นหญ้าที่ไม่แข็งมากแต่สำหรับผู้สูงอายุจะต้องระวังเพราะมวลกระดูกต่ำมีโอกาสแตกหักได้ง่ายมาก
รองเท้า
แม้การเล่นกอล์ฟเป็นกีฬาที่ไม่ได้ใช้เท้าเล่นโดยตรง แต่การเล่นกอล์ฟต้องเดินและยืนเป็นเวลานาน จึงเป็นสาเหตุของโรคไขข้อเสื่อม น้ำมันไขข้อแห้ง ควรเลือกใช้รองเท้าให้เหมาะกับการใช้งานในสนามกอล์ฟที่เป็นหญ้าลื่น รองเท้ากอล์ฟที่ดีจะช่วยกระจายน้ำหนัก รองรับข้อเท้า ยึดเกาะพื้นได้อย่างมั่นคง นอกจากนี้อาจจะพิจารณาเลือกอุปกรณ์ซัพพอร์ตและพยุงกล้ามเนื้อบริเวณหัวเข่ากับข้อศอกด้วยก็ได้
ถุงมือ
การใช้ถุงมือเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะจะช่วยคอนโทรลไม้กอล์ฟได้ดีและยังลดโอกาสบาดเจ็บจากผิวหนังเลื่อนหลุดถ้าไม่กอล์ฟหลุดมือ
แสงแดด
แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เกิดโรคทางผิวหนัง ทั้งแดดเผา มะเร็ง ในวันที่แดดจัด ควรใส่แว่นตากันแดด และ ใช้อุปกรณ์อย่างเสื้อแขนยาว หมวก หรือทาครีมกันแดด เพื่อลดการรับรังสี UV ที่มากเกินไป
สำหรับการเล่นกอล์ฟนั้นไม่ต้องใช้แรงมากจึงลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุออกไปได้หลายส่วน แต่ถ้าการเคลื่อน การปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง ก็สร้างความเจ็บปวดได้เหมือนกัน ส่วนใหญ่แล้วในขณะไดร์ฟไม้กอล์ฟบางคนขยับศีรษะเร็วเกินไปทำให้หน้ามืด บางคนจัดท่าทางไม่ถูกลักษณะทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดจากโมเมนตัมที่ผิด และ ยังมีการเดิน การก้มเก็บลูกกอล์ฟแบบผิด ๆ ทำให้ท่าทางดูไม่สมาร์ท และยังททำให้กระดูกสันหลังบาดเจ็บอีกด้วย
หลังจากการไดร์ฟแต่ละครั้งถ้ามีอาการเจ็บปวดถึงแม้ยังไม่ล้มลงกระแทกพื้น ก็ไม่ควรปล่อยปละละเลย จะต้องสำรวจตัวเอง เพราะมีโอกาสที่กระดูกจะแตก ร้าวอยู่ภายใน