ช่วงนี้เป็นปลายฤดูร้อนที่ย่างเข้าถึงฤดูใบไม้ร่วงสำหรับ ไมร์เทิลบีช เมืองชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ในรัฐเซาท์แคโรไลนา ไมร์เทิลบีชนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและยังมี สนามกอล์ฟ เปิดให้บริการเป็นจำนวนมาก ในทุกปีสนามท้องถิ่นจะเปิดให้บริการพร้อมกับรอรับการแข่งขัน Tournament golf ที่กำลังจะถึง แต่ในปีนี้ไมร์เทิลบีชกลับต้องเจอกับพายุเฮอริเคนโดเรียนความแรงระดับ 3 ที่เคลื่อนตัว ผ่านมาทางหมู่เกาะบาฮามาสด้วยความเร็วลมที่จุดศูนย์กลาง 289 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นค่าความเร็วลมที่สูงเป็นประวัติการณ์ จนนายกรัฐมนตรีของบาฮามาสประกาศว่าเป็นวิกฤตของชาติ ซึ่งสร้างความเสียหายยับเยินจนมีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 20 คน
แม้ว่าพายุโดเรียนที่เคลื่อนตัวเข้ามาที่ไมร์เทิลบีช จะชะลอตัว เหลือ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ตามแต่ก็ยังสร้างความเสียหายอย่างหนักทั้งอาคารบ้านเรือนและสถานที่ท่องเที่ยว แต่เมื่อ 13 กันยายน ที่ผ่านมาหลังจากเหตุการณ์สงบลงหลายอย่างกำลังเป็นไปในทิศทางที่ดีทั้งการฟื้นตัวและการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นจาผลกระทบของพายุเฮอริเคนโดเรียน
บิล โกลเด้น ประธาน บริษัท Golf Tourism Solutions ที่ทำหน้าที่ด้านการตลาดของไมร์เทิลบีช กล่าวว่า “เราโชคดีที่สามารถเตรียมการรับมือกับพายุเฮอริเคนโดเรียน จนหลีกเลี่ยงสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นได้เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ได้รับความเสียหายในบางจุดที่สำคัญไม่มาก พร้อมกล่าวย้ำถึงความมั่นใจที่สามารถฟื้นฟูสนามกอล์ฟให้มีความพร้อมสำหรับการใช้งานในฤดูการแข่งขันที่กำลังจะถึงอย่างแน่นอน”
คริส คูเปอร์ ผู้จัดการทั่วไปของ Tidewater Golf Club กล่าวว่า “ปกติแล้วการแข่งขันกีฬากอล์ฟที่จัดขึ้นในไมร์เทิลบีชจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ถึงพฤศจิกายน มีนักกีฬากอล์ฟจำนวนมากจากทั่วโลกที่เข้ามาใช้บริการสนามกอล์ฟกว่า 90 แห่ง ที่ตั้งอยู่บน Grand Strand ส่วนในปี้นี้มีรายงานจากสนามกอล์ฟท้องถิ่น คาดว่าในปีนี้จะมีจำนวนนักกีฬาเข้ามาใช้งานประมาณ 3,200 ถึง 4200 คน ตั้งแต่กอล์ฟเปิดจนปิดฤดูกาล”
ในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำจนสนามกอล์ฟต้องปิดตัวลงไปบางแห่ง แต่เมื่อเทียบกับหลายกิจการที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของอุตสาหกรรมกอล์ฟ และไมร์เทิลบีชก็ยังเร่งพัฒนาด้านอยู่อาศัยและสนามกอล์ฟให้รองรับกับผู้ใช้งานที่มากขึ้นทั้งจำนวนประชากรณ์ในไมร์เทิลบีชเอง ที่พบว่าคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจในกีฬากอล์ฟมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ทั้งในและนอกฤดูการแข่งขัน จึงมองว่าอุตสาหกรรมกอล์ฟยังไปได้ดี